เขียนเว็บไซต์อย่างไรให้เหมาะกับผู้เข้าชมไซต์ และ Search Engines
ผู้เข้าชมไซต์ของคุณอาจจะเป็น:
คนที่ไม่ค่อยอ่าน
แต่แค่มองผ่านๆ จากลิ้งค์ไปยังรูปภาพ จากหัวข้อไปยังหัวข้อ แสกนคร่าวๆหาสิ่งที่เขาอาจจะสนใจ เวลาคือสิ่งมีค่า เขาอาจจะประเมิณเว็บไซต์คุณผ่านการอ่านแบบเร็ว
> เว็บไซต์ไม่ใช่หนังสือ ชื่อกับแท็บเมนูที่ชัดเจน การใช้ Keywords ซ้ำๆในวิธีที่แตกต่าง มีหัวข้อที่หนักแน่น และเนื้อหาเป็นตอนสั้นๆ สร้างหน้าเว็บที่ชัดเจน เป็นวิธีที่ดีที่ควรนำมาปรับใช้
คนที่ต้องการมองหาข้อมูล
>ผู้เข้าชมไซต์ที่อยากจะเข้าใจว่าคุณกำลังจะนำเสนออะไร
คนที่มองหาความสนุกหรือสิ่งที่น่าสนใจ
และหลายๆครั้งก็มองหาทั้งคู่ในเวลาเดียวกัน ความรู้สึกที่ได้จากการเข้าชมไซต์เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์
>ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณเสนอ เพิ่มความสนุก สิ่งที่คนชอบ และสนใจ อาจเป็นวิธีที่ดี ที่ช่วยตอบสนองต่อกับเข้าชมไซต์ของคุณ
> แต่.. คุณต้องมั่นใจว่าเว็บไซต์ของคุณไม่ได้ลืมข้อมูลหรือเนื้อหาที่สำคัญ จัดระเบียบเว็บไซต์ของคุณ คุณยังอยากให้ผู้เข้าชมไซต์เจอสิ่งที่เขามองหาได้อยู่รวดเร็วอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณต้องการนำเสนอให้ทุกคนได้รู้
>ถ้าคุณสามารถพาพวกเขาไปยังสิ่งที่เขามองหาได้ ก็มีโอกาสสูงที่เขาจะกลับเข้ามาใช้งานไซต์ของคุณอีกครั้ง
เขียนเนื้อหาเว็บ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน
"การเขียนเนื้อหาเว็บไซต์" เป็นเรื่องสำคัญ
เริ่มจากหาข้อมูล แล้วคุณจะเจอคำแนะนำที่สำคัญสำหรับ:
- ประโยคที่สั้นและได้ใจความ
- ประโยคที่เข้าใจง่าย ที่ช่วยให้อ่านได้เร็วมากขึ้น เข้าใจง่าย และน่าจดจำ
- ชัดเจนและเป็นระเบียบ ช่วยให้พวกเขาสบายใจที่จะอ่าน และง่ายต่อการตัดสินใจที่จะคลิ้กหรืออ่าน
โอเค ทำให้เข้าใจง่าย แต่แล้วจะเลือกคำที่เอามาใช้ยังไง?
อย่าทำผิด และเขียนเว็บไซต์มาเพื่อเว็บไซต์แบบ Google
จริงๆนะ ใช้ Keywords ในตอนที่มันจำเป็นและเกี่ยวข้อง แต่แค่รู้เอาไว้ว่า search engines หรือผู้เข้าชมไซต์จะรู้ได้ทันทีว่ามันเกี่ยวข้องหรือไม่ แทนที่จะเอาแต่มองหาโอกาศที่จะใส่ Keywords ให้มากที่สุด ใช้มันอย่างเป็นธรรมชาติ หรือใช้คำศัพท์ใกล้เคียงกันที่มีความหายเดียวกันบ้าง
การใช้แค่คำเดินซ้ำไปซ้ำมา ไม่ได้เกิดผลดีกับไซต์ของคุณเลย
ตัวอย่างเช่น"ซ่อมคอมพิวเตอร์"
จินตนาการดู
ว่าถ้าคอมคุณพัง แล้วต้องเอามันไปซ่อม
คุณขับรถไปเพื่อมองหาร้านซ่อมคอม คุณจะมองหาป้ายที่เขียนว่า "รับซ่อมคอม" และถ้ามีคำว่า "ราคาถูก" หรือ "ซ่อมเสร็จภายใน 1 ชั่วโมง" คุณอาจจะพอใจมากยิ่งขึ้นคุณจะมองหาคำพวกนี้ ระหว่างที่คุณกำลังขับรถ โดยที่ไม่มองหาคำหรือป้ายอื่นๆเลย เพราะอย่างนั้น หากจะเจอร้านที่คุณมองหาได้ เขาจะต้องใช้ keywords เดียวกับที่คุณใช้
และนี่ก็คือภาษาที่ผู้เข้าชมไซต์จะคาดหวัง
เมื่อถึงที่ร้าน
ช่างซ่อมก็เข้ามาช่วยคุณ เขาพูดภาษาที่เราเข้าใจได้ แต่เมื่อเขาเริ่มอธิบายถึงเรื่องที่สำคัญเช่นว่าเพราะอะไรคอมคุณถึงพัง เขาเริ่มใช้ศัพท์เฉพาะเช่น "การ์ดจอ" มันอาจจะเป็นคำศัพท์ใหม่สำหรับคุณ แต่ก็จะเป็นคำใหม่ที่คุณควรจะเรียนรู้ก่อนที่คุณจะเริ่มซ่อมคอม
และนี่จะเป็นภาษาที่ผู้เข้าชมไซต์อาจจะได้เรียนรู้จากคุณ
แล้วสถานการณ์แบบนี้ล่ะ
คุณไปถึงร้านซ่อมคอม แล้วช่างซ่อมถามคุณว่า "พัดลมระบายอากาศเสียควรจะเปลี่ยน" คุณอาจงง แต่ก็คงตอบตกลงที่จะเปลี่ยน แล้วถ้าเขาถามคุณเพิ่มว่า "เมนบอร์ดของคุณรุ่นไหน คุณเคยซ่อมเมนบอร์ดที่ติดอยู่กับซีพียูหรือไม่ แล้วแรมคุณเท่าไหร่?"
ถึงตอนนี้คุณคงอยากจะออกจากร้านแล้ว แม้ว่าคำที่ซับซ้อนพวกนี้จะเป็นแค่คำศัพท์เฉพาะที่แค่จะบอกว่าคอมคุณพังและ "ต้องซ่อม"
>การใช้ศัพท์เฉพาะ (ซึ่งถึงแม้จริงๆแล้วจะถูกต้อง) ก็อาจเป็นความผิดพลาดที่ทำให้คนไม่ไปซ่อมคอมที่ร้านคุณ
การรู้และเลือกใช้ภาษาที่ผู้เข้าชมไซต์ของคุณใช้ คือสิ่งสำคัญ การที่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่
คุณควรจะใช้คำอื่นๆ หรือเปลี่ยนวิธีการก็เหมือนกัน
ได้เวลาเริ่มเขียนเว็บไซต์ของคุณแแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะช่วยทำให้มันง่ายและชัดเจนขึ้นสำหรับคุณและผู้เข้าชมไซต์ ด้วยหลักการณ์ง่ายๆ 1 หัวข้อ ต่อ 1 หน้า